วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

นวดจับเส้น


การตอกเส้น

การตอกเส้น คือ การรักษาอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับเส้นและโรคต่างๆ ในร่างกาย โดยการใช้ลิ่มและค้อนตอก เป็นการกระตุ้นสั่นสะเทือน ใช้ในการรักษาโรคอัมพฤกษ์

อัมพาต เส้นเอ็นพิการ กระดูกทับเส้นปวดข้อ ปวดทั่วร่างกาย เส้นเลือดตีบตัน โรคชามือ ชาเท้า โรคเหน็บชา ฯลฯ ในสมัยก่อน การตอกเส้นไม่เป็นที่สนใจของคนมากนัก

เพราะในสมัยนั้นเป็นการรักษาแบบพื้น ๆ ผู้ที่จะทำการรักษาโดยการตอกเส้นจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเส้นต่างๆ ของร่างกาย โดยการตอกเส้นในสมัยก่อนนั้น ทำโดยการใช้

ผ้าขาวม้าพนเป็นเกลียว ทุบตรงจุดที่ปวดซึ่งอาการปวดจะดีขึ้น ต่อมาเห็นช่างแกะสลักใช้ค้อนตอกที่แกะไม้เป็นรูปต่าง ๆ ประกอบกับมีความรู้ทางเส้น ก็ดูไปตามเส้นแล้วคิด

เป็นท่า มีสิบกว่าท่า และพัฒนามาใช้ค้อนตอกแทนการใช้ผ้าขาวม้าทุบ

การตอกเส้น เป็นการรักษาที่คลายเส้นได้เร็วกว่าการนวด เพราะจะมุ่งเน้นการกระตุ้นจุดหรือเส้นสำคัญในร่างกายของคน หมอบางคนอาจใช้การตอกเส้นร่วมกับการนวด

โดยการตอกจุดที่เส้นตึงมาก ๆ จนเส้นหย่อนคลายลง แล้วจึงนวดหรือเผาไฟต่อ อาการเจ็บป่วยก็จหายเร็วขึ้น โดยก่อนทำการบำบัดต้องทำพิธีไหว้ครูอาจารย์ มีการชุมนุม

พ่อหมอครู ทำการเสกเป่าค้อน และลิ่มที่จะใช้ตอกเส้น ในขณะที่ตอกเส้น อาจให้ผู้ป่วยนั่ง นอนคว่ำ นอนตะแคงหรือนอนหงาย แล้วแต่จุดที่จะตอก

การกด บีบ นวด

การกด บีบ นวด เป็นการรักษาแบบพิ้นบ้านล้านนาอีกแบบหนึ่ง โดยการใช้มือหรือศอกกดตามตำแหน่งต่างๆ ในร่างกายที่เจ็บปวด หรือการใช้มือบีบตามแนวเส้น

หรือใช้มือคลึงไปตามกล้ามเนื้อต่าง ๆ การกด บีบ นวด ไม่เพียงแต่การรักษาเฉพาะที่เท่านั้น ยังสามารถใช้รักษาโรคและส่งผลถึงอวัยวะภายใน ที่ไกลออกไปได้ด้วย

การนวดจับเส้น

การนวดจับเส้น เป็นการนวดพื้นบ้านที่เน้นหนักเกี่ยวกับการนวดเส้น การนวดจับเส้นมีวิธีการในลักษณะต่างๆ ดังนี้

1. การบีบเส้น เป็นการนวดโดยใช้นิ้วทั้ง 4 จับตามแนวเส้น และบีบไล่ไปตามแนวเส้น เพื่อกรตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและลม ลดอาการปวดเมื่อยจากเส้นเอ็น

ตึงหดรัดเส้นลวด

2. การเขี่ยเส้น(การคิดเส้น) เป็นการจับเส้นโดยใช้นิ้วโป้ง กดบนเส้นด้านหนึ่ง แล้วใช้นิ้วกดรับอีกด้านหนึ่ง แล้วเขี่ยตวัดนิ้วโป้งขึ้นไปคนละด้านตามแนวเส้น

3. การโกยเส้น เป็นการจับเส้นโดยใช้ปลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว กดบนเส้นแล้วควักโกยขึ้น ส่วนมากใช้ในการโกยมดลูกหรือโกยเส้นในกรณีไส้เลื่อนในผู้ชาย

4. การประคองเส้น เป็นวิธีการจับเส้นที่ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษาผู้ที่มีการปากเบี้ยว โดยหมอจใช้มือข้างหนึ่งกดดันเส้นปากด้านที่มีอาการ แล้วใช้อีกมือหนึ่งประคอง

ด้านตรงข้าม

5. การดันเส้น เป็นวิธีการจับเส้นโดยใช้สันมือด้านหนึ่งผลกหรือดันไปตามแนวเส้น และใช้มืออีกด้านหนึ่งจับประคองอวัยวะนั้น ทำให้เส้นคลาย

6. การจกเส้น เป็นการแหย่นิ้วหัวแม่มือเข้าไปใต้กระดูกหรือกล้ามเนื้อ แล้วคิดหรือเขี่ยเส้นออกมา เส้นติดอยู่ข้างใน นวดเท่าไหร่ก็ไม่ออก

7. การถกเส้น เป็นการดึงเส้น เพื่อแก้เส้นสลับเข็ดที่ติดอยู่ข้างใน ที่นวดแล้วไม่ออก

8. การรีดเส้น เป็นวิธีการจับเส้น โดยใช้นิ้วหัวแม่มือ หรือส้นเท้ารีดไปตามเส้นทั่วทั้งร่างกาย เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่

เป็นโรคข้อ อัมพฤกษ์ อัมพาต ชามือ-เท้า

9. การเหยียบเส้น เป็นวิธีการจับเส้นโดยใช้เท้าเหยียบไปตามแนวเส้น ขา หน้าขา ขาด้านนอก ด้านใน กล้ามเนื้อน่องขึ้นไปหาเอว



ตำรายาแผนโบราณ

1. ยาแก้เบาหวาน

ให้นำเอารังผึ้ง ( ทั้งรังพร้อมตัวอ่อน ) 1 รัง เหล้า 1 ขวด หัวกระชาย 12 หัว เปลือกตะโกนา (ต้นตะโกดัด สด หรือแห้งก็ได้) จำนวน 3 เปลือก

นำตัวยาทั้ง 4 อย่าง มาดองเหล้ารวมกัน โดยนำรังผึ้งใส่ลงในโถหรือใส่ในโหล เทเหล้าลงผสมพอท่วมรังผึ้ง ใส่หัวกระชายต้องปอกเปลือกและทุบให้แตกเสียก่อน

และใส่เปลือกตะโกนา ลงผสมหมักดองไว้ 3 วัน ใช้น้ำยาดองนี้รับประทานครั้งละ 1 ถ้วยชาจีน เวลาก่อนอาหารเช้า-เย็น วันละ 2 เวลา ทุกวัน ติดต่อกัน

จนครบ 1 เดือน ส่วนขนานที่สอง ท่านให้เอาต้นเหงือกปลาหมอทั้งต้นตลอดจนถึงราก จำนวนพอสมควร นำมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง

บดเป็นผง จำนวน 6 ถ้วยชาจีน แล้วเอาพริกไทยอ่อน จำนวน 3 ถ้วยชาจีน บดให้ลเอียด ผสมกับน้ำผึ้งแท้ ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทธา จำนวน 108 เม็ด

รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด เวลาก่อนอาหารเช้า-เย็นทุกวัน ติดต่อกันไปจนครบ 54 วัน แล้วโรคเบาหวานจะหายขาด เจ้าของยาขนานนี้ได้ใช้รักษาตวเองหายขาดมาแล้ว

มีสรรพคุณชะงัดนักแล.

2. ยารักษาโรคมะเร็ง

ให้นำเอาหัวยาข้าวเย็นเหนือ 1 หัวยาข้าวเย็นใต้ 1 กำมะถันเหลือง 1 ตัวยาทั้ง 3 อย่างนี้เอาหนักอย่างละ 4 บาทเท่ากัน กะลามะพร้าวแก่ ผ่าเป็น 4 ส่วน

เอา 3 ส่วน ตัวยาทั้ง 4 อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร

ใช้ดื่มยานี้ต่างน้ำชา จนน้ำยาจืด มีสรรพคุณรักษาโรคมะเร็ง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล เคยมีผู้ป่วยใช้ตัวยานี้รักษาโรคมะเร็งหายมามากแล้ว.

3. ยารักษาโรคมะเร็งในมดลูก

ให้เอาหัวยาข้าวเย็นเหนือ 1 หัวยาข้าวเย็นใต้ 1 ต้นหนอนตายอยาก 1 รากนมแมว 1 หัวพุทธรักษาสีขาว 1 นำตัวยาทั้ง 5 อย่างนี้หนักอย่างละ 4 บาท

เท่ากัน เกลือทะเลที่ใส่แกง 1 กำมือ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้ดื่มยานี้ครั้งละ 1 ถ้วยชาวันละ 3 เวลา มีสรรพคุณรักษาโรคมะเร็งในมดลูก

ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ

4. ตำรายารักษาตับ จากตำรายาจีน
จันทั้งสอง สิ่งละ 1 บาท
ว่านกลีบแรต สิ่งละ 1 บาท
ว่านร่อนทอง สิ่งละ 1 บาท
เถาลิ้นเสื้อ สิ่งละ 1 บาท
ใบถั่วแระ สิ่งละ 1 บาท
รากมะแว้งทั้งสอง สิ่งละ 1 บาท
เกสรบัวหลวง สิ่งละ 1 บาท
เกสรบุนบาค สิ่งละ 1 บาท
บอระเพ็ด สิ่งละ 1 บาท
ลูกกระดอม สิ่งละ 1 บาท
หัวเต่านา สิ่งละ 1 หัว
หัวเตาร้าง สิ่งละ 1 หัว
รากซองแมว สิ่งละ 1 บาท
รากต่อไส้ สิ่งละ 1 บาท
กระเพรา สิ่งละ 1 บาท
กระพังโหม สิ่งละ 1 บาท
หัวเตาเขียด สิ่งละ 3 องคุลี
สมอไท สิ่งละ 15 ผล
สมอภิเภก สิ่งละ 10 ผล
มะขามป้อม สิ่งละ 30 ผล
ขมิ้นอ้อย สิ่งละ 5 แว่น
เกลือ สิ่งละ 7 เม็ด
ตะไคร้ สิ่งละ 7 หัว
กะลามีรู ตัด 4 ทิ้ง 3 เอาไว้ 1 ส่วน

นำยาทั้งหมดนี้ ต้มดื่มเช้า- เย็น รักษาโรคตับต่างๆ ทุกชนิด เช่น โรคตับทรุด ตับอักเสบ ตับโต ตับแข็งไวรัสลงตับ.

5. ยาแก้โรคเสียงแหบแห้ง

นำใบสังกรณีตรีชวา หรือหนุมานประสารกาย ที่มีขนาดกลางไม่แก่ หรืออ่อนเกินไป นำมาต้มกิน จะรักษาหลอดเสียง ที่แหบแห้งหรือ อาจนำหญ้าปักกิ่ง

มาต้มดื่มกินก็ใช้ได้เหมือนกัน

6. ยาแก้โรคงูสวัด

กำมะถันแดง 20 กรัม
ใบเสลดพังพอน 1 กำมือ
เหล้าขาว 1/2 ขวด

ตำใบเสลดพังพอน กับกำมะถันแดงให้ละเอียด ผสมกับเหล้าขาว ใช้ทาแก้โรคงูสวัด หรือใช้รังดินตวหมาล่า ที่อยู่ตามฝาผนังบ้าน ตามต้นไม้ นำมาผสม

กับน้ำส้มสายชู แล้วทาบริเวณที่เป็นโรคงูสวัดบ่อย ๆ แบบแห้งทา แห้งทา หัวงูสวัดจะฝ่อตกสะเก็ดหายไปเอง

หมายเหตุ ห้ามเกาแกะสะเก็ดแผล และห้ามอาบน้ำโดยเด็ดขาด

7. ยาน้ำมูตรเน่า แก้โรคอัมพฤกษ์ - เหน็บชา

เป็นยาที่พระพุทธองค์ ทรงกำหนดไว้ให้ภิกษุอาพาธใช้ มีกล่าวอยู่ในหนังสือบุพพสิกขา มีดังนี้

มะขามป้อม 1 สมอ 1 กระชาย 1 ข่า 1 ขิง 1 กระเทียม 1 เขาฮอ (บอระเพ็ด) 1 พริกไทย 1 ตะไคร้ 1

เกลือ 1 น้ำผึ้ง 1 ว่านไพร 1 ใบมะกรูด 1 ใบมะนาว 1 ใบผักหนอก (ใบบัวบก) 1 ผักอีเลศ (ใบช่าพลู) 1 ดีปลี 1

ใบมะขาม 1 ใบสะเดา (ใส่บ้างนิดหน่อย) ใบส่องฟ้าทั้งใบและราก ใบแมงลัก ใบกระเพรา พริกใหญ่ธรรมดา เยี่ยววัวดำต้ม

(เยี่ยววัวดำเป็นยาหลักขาดไม่ได้ เพราะเป็นโอสภสำคัญมากทีเดียว)

8. ยาแก้โรคความดันโลหิตสูง

ให้เอาต้นกาฝากมะม่วงทั้งห้า ( ทั้งต้นตลอดถึงราก ) จำนวนมากพอสมควร นำมาตากแดดให้แห้ง ใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้ดื่มตัวยานี้ต่างน้ำชา

มีสรรพคุณ แก้โรคความดันโลหิตสูง ให้ลดลง อาการปวดศีรษะจะหายไปได้ผลดี อย่างชะงัดนักแลฯ

9. ยาแก้โรคลมอัมพาต

ท่านให้เอาหัวกระเทียม 30 หัว หั่นกลางออกเป็นหัวละ 2 ท่อน ตากแดดให้แห้ง แล้วเอาขิงแห้ง 1 หัว แห้วหมู 1 โคกกระสุน 1

ตัวยาทั้ง 3 อย่างนี้ เอาน้ำหนัก เท่ากับน้ำหนักของหัวกระเทียม นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร

วิธีใช้ดื่มยาต่างน้ำชา มีสรรพคุณแก้โรคลมอัมพาต มีอาการมือตาย เท้าตายได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯลฯ

10. ยาแก้โรคหัวเข่าไม่มีกำลัง

ให้เอาพริกไทอ่อน หนัก 1 บาท ขิงสดแก่ ๆ หนัก 2 บาท ผิวมะกรูดหนัก 3 บาท หญ้าแพรกหนัก 6 บาท สารส้ม หนัก 16 บาท

นำตัวยาทั้ง 5 อย่างนี้ มาตำ หรือ บดให้ละเอียด ใช้พอกที่หัวเข่า มีสรรพคุณ แก้โรคหัวเข่า ไม่มีกำลังให้หาย ได้ผลดีนักแล ฯลฯ

11. ยาแก้โรคบวมทั้งตัว

ให้เอารากไม้ไฝ่สีสุก 1 รากมะนาว 1 รากส้มป่อย 1 เปลือกตะโกป่า 1 เปลือกต้นทองหลางน้ำ 1 ตัวยาทั้ง 5 อย่างนี้เอาหนักอย่างละ

1 บาท เท่ากัน นำมาบดเป็นผงละเอียด ปั้นเป็นแท่งใช้ละลายกับน้ำปูนใส (น้ำปูนแดงกินกับหมาก) ใช้ทาแก้โรคบวมทั้งตัว มีสรรพคุณชะงัดนกแลฯ

12. ยาแก้พิษไข้ ลิ้นกระด้างคางแข็ง

ให้เอาไส้ขนุนละมุด 1 ใบตำลึงสด 1 สะค้าน 1 ตัวยาทั้ง 3 อย่างนี้เอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาตำให้ละเอียดผสมกับดีงูเห่า (พอสมควร) คั้นเอาเฉพาะ

น้ำยาให้ผู้ป่วยรับประทาน โดยงัดปากให้อ้าออกแล้วกรอกน้ำยาเข้าไป และใช้กากยาทาที่คาง และที่คอ มีสรรพคุณแก้พิษไข้ ซึ่งมีอาการทำให้ลิ้นกระด้าง

คางแข็ง อ้าปากไม่ออก และทำให้สลบได้ผลดีอย่างชะงัด

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

นวดจับเส้น



การนวดแผนไทย ไ้ด้รับการสืบทอดกันมานาน ซึ่งถือเป็นศาสตร์และศิลป์ ช่วยในเรื่อง สุขภาพของคนไทย แม้ว่าความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอันทันสมัยของการแพทย์ แผนปัจจุบัน จะมีบทบาทสำคัญ ในการดูแลสุขภาพของคนทั่วโลก แต่หลายคนก็ยัง เสาะแสวงหาทางเลือกอื่น ในการดูแลสุขภาพของตนเอง ด้วยเหตุผลแตกต่างกัน การ แพทย์แผนไทย เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการดุแลสุขภาพ และได้รับความนิยม มากขึ้นเรื่อย ๆ

ปัจจุบันมีการใช้ยาแก้ปวด และยากล่อมประสาทหายชนิด และมีผลแทรกซ้อนจาก ยาแก้ปวดบางชนิดค่อนข้างรุนแรง เช่น ทำให้ปวดท้อง เกิดแผลในกระเพาะอาหาร อาเจียนเป็นเลือด

จากงานวิจัยที่สนับสนุนว่าการนวดแผนไทย สามารถช่วยบรรเทาอาการปวด อันมีประโยชน์ คือ

1. ด้านสุขภาพ ผู้ได้รับการนวดจะได้ผลทั้งร่างกายและจิตใจ ผลทางกายคือการนวดทำให้เกิด อาการไหลเวียนของเลือดลมดีขึ้นช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ผังผืด ช่วยการทำงานของข้อต่อดีขึ้นและใช้อายุการใช้งานยาวนนานขึ้น กระตุ้นระบบประสาท การตื่นตัว ตอบสอนอง ต่อสภาพแวดล้อมดีขึ้นและยังทำให้ทำงานมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังเป็นการป้องกันและบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอกกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ เช่น ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดศีรษะ หลังตึง ข้อแพลง โรค อัมพฤตและอื่น ๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส ผ่อนคลายจิตใจ

2. ด้านสังคม หากเป็นการนวดของคนในครอบครัว หรือสังคม มีส่วนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทำให้เกิดความเข้าใจ ความเอื้ออาทรรักใคร่ ในระหว่างการนวดมีการพูดคุย ช่วยผ่อนคลายลง นับเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว และ สังคมอีกด้านหนึ่ง

การนวดเป็นศิลปะของการสัมผัสที่สร้างความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ทำให้เรารู้สึกสดชื่น คลายความเมื่อยล้า ทั้งร่างกายและจิตใจ